โดย รองศาสตราจารย์พรชัย ตระกูลวรานนท์
สาขามานุษยวิทยา คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเข้าเทศกาลฉลองวันชาติและหยุดยาวของจีน ได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจากพรรคคอมมิวนีสต์จีนชิ้นสำคัญผ่านสำนักข่าวซินหัว เกี่ยวกับการปลดนาย ปั๋ว ซีไหล ออกจากทุกตำแหน่งในพรรคและกำลังตั้งสำนวนจะดำเนินคดีทางอาญา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบว่าสื่อสังคมออนไลน์จีนในช่วงหลายวันมานี้ จะเต็มไปด้วยเรื่องราวแง่มุมต่างๆที่สาธารณชนจีนพากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ฝากคอมเม้นท์ไว้เยอะมาก จนกลายเป็นข้อหัวข้อพูดคุยหลักในทุกวงการ แม้ว่าเรื่องราวชะตากรรมทางการเมืองที่พลิกผันของอดีตสมาชิกพรรคหนุ่มใหญ่ไฟแรงอนาคตสดใสท่านนี้ จะเริ่มปรากฏออกมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว แต่ในประเทศไทยเรา เรื่อง ปั๋ว ซีไหล เป็นใคร ไปทำอะไรเข้า ถึงได้ตกต่ำมายังจุดนี้ ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านจำนวนมากที่ไม่ได้เป็นคอข่าวสายจีนแท้ๆ อาจไม่ทราบเรื่องมากนัก หรืออาจทราบจากรายงานข่าวต่างประเทศเพียงว่าภรรยาถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต(ข่าวว่าอาจลดหย่อนเหลือ15ปี)ไปแล้วก่อนหน้านี้ ในข้อหาบงการใช้ยาพิษฆ่านักธุรกิจชาวอังกฤษรายหนึ่ง ก็เลยพลอยทำให้สามีเดือดร้อนไปด้วย แต่สำหรับคอข่าวขาเม้าท์ในประเทศจีน เรื่องราวอาจไม่ได้เรียบๆง่ายๆเช่นนั้น วันนี้ผมเลยจะชวนท่านผู้อ่านไปรวมแจมข่าวกะเขาหน่อย เพื่อให้เรารู้จักการเมืองภายในของจีนเพิ่มขึ้นอีกนิด
ผมเองเคยมีโอกาสร่วมคณะไปกับรองนายกฯของไทยท่านหนึ่งเดินทางไปเยือนจีน และก็ได้พบกับนายปั๋ว ซีไหล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชของจีน จำได้ว่าทุกคนที่ร่วมไปในคณะต่างชื่มชมและรู้สึกว่ารัฐมนตรีหนุ่มใหญ่ไฟแรงท่านนี้อนาคตไปไกลแน่ เพราะทราบกันดีว่านอกจากจะมีทั้งพ่อตัวและพ่อตา(อดีตทหารในกองทัพปฏิวัติ)เป็นเบอร์ใหญ่ทรงอิทธิพลในพรรคแล้ว ยังได้รับความไว้วางใจและเชื่อถือฝีมือมากจากท่านอดีตประธานาธิปดีเจียง อนาคตทางการเมืองอย่างไรเสียก็ต้องก้าวเข้าสู่ตำแหน่งในคณะกรรมการกลางของพรรคฯแน่ แล้วจู่ๆหลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ทราบข่าวว่าท่านถูกส่งตัวไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯนครฉงชิ่ง อันทำให้เกิดกระแสคาดเดาไปทั้งในทางดีและทางร้าย บ้างก็ว่านี่เป็นสัญลักษณ์การปรับเปลี่ยนที่จะยกสถานะทางการเมือง บ้างก็ว่าลดขั้นจากรัฐมนตรีไปเป็นเลขาธิการพรรคฯระดับมหานคร ถือเป็นการลงโทษ จนต่อมาเมื่อปีที่แล้ว ข่าวในทางร้ายของนายปั๋ว ก็เพิ่มมากขึ้น ด้วยข่าวลือเรื่องพฤติการณ์โหดเหี้ยมที่เขากระทำต่ออดีตภรรยาและลูก(จนเมียเก่าต้องออกมาแฉและเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ใหญ่ในพรรค) ตามมาด้วยข่าวลูกจากภรรยาคนที่สองซึ่งศึกษาอยู่ต่างประเทศประพฤติตัวไม่เหมาะสม ทำตัวเป็นลูกเศรษฐีเพลย์บอยควงสาวฝรั่งออกงานไม่เว้นแต่ละวัน
กระแสข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลากว่าปีที่ผ่านมา ได้กลายเป็นปัญหาอึดอัดใจของผู้นำพรรคฯและรัฐบาลที่ปักกิ่ง เกิดอาการกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก จนท้ายที่สุดข่าวคดีใหญ่แห่งปีก็ถูกเปิดเผย เมื่อการเสียชีวิตของนักธุรกิจต่างชาติชาวอังกฤษในมหานครฉงชิ่งที่เชื่อกันว่าใกล้ชิดสนิทสนมกับครอบครัวนายปั๋ว ถูกเชื่อมโยงว่าเป็นฝีมือบงการวางยาโดยมาดามกู่ ไคไหล ภรรยาของนายปั๋ว อีกทั้งคดีนี้ในชั้นการสอบสวนยังเชื่อกันว่าเชื่อมโยงกับการหักหลังทางธุรกิจ และการคอรัปชั่นขนานใหญ่ในแวดวงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลท้องถิ่นของมหานครฉงชิ่ง ข่าวฉาวโฉ่นี้เกิดขึ้นในห่วงเวลาเดียวกับที่จีนกำลังจะดำเนินการถ่ายโอนอำนาจจากผู้บริหารเดิมสู่ชุดใหม่ และแน่นอนว่าจะต้องกระทบกับภาพรวมความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพของพรรคฯ หากบรรดาผู้มีอำนาจในปักกิ่งไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดกับนายโป่ว ให้ชัดเจนลงไป
การตัดสินใจล่าสุดในการดำเนินคดีกับนางกู่ ไคไหล และการปลดนายปั๋วออกจากตำแหน่งต่างๆในพรรคฯ จึงอาจมองได้ว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญแข่งกับเวลา ก่อนที่ความเสียหายจะขยายตัวและกระทบต่อการถ่ายโอนอำนาจการบริหารประเทศครั้งสำคัญ อย่างน้อยก็เชื่อกันว่าจะทำให้เกิดความชัดเจนและยุติความขัดแย้งของบรรดาผู้อาวุโสในพรรคเกี่ยวกับกรณีชะตากรรมของนายปั๋ว ใครเป็นใครในการจัดแถวโยกย้ายสับเปลี่ยนเข้าสู่อำนาจ หรือจะขยับเลื่อนใครขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญทดแทนกัน ก็จะได้ดำเนินการได้ทันการประชุมใหญ่ของพรรคฯในวันที่ 8 พ.ย. ที่จะถึงนี้ พูดง่ายๆก็คือต้องจัดการก้าวข้ามปัญหาของนายปั๋วไปให้ได้ โดยไม่กระทบต่อสายอำนาจและภาพลักษณ์ของพรรคฯและรัฐบาลจีน
แม้ปัญหากับพรรคฯและรัฐบาลจีนจะดูเหมือนจบลงได้ แต่ปัญหาของนายปั๋วอาจยังไม่จบ เพราะมีกระแสข่าวว่าพรรคฯคงต้องดำเนินการกับนายปั๋วให้ถึงที่สุด นอกเหนือจากข้อกล่าวหาว่าอาจมีส่วนร่วมรู้เห็นกับการฆาตกรรมนักธุรกิจชาวอังกฤษ ตัวนายปั๋ว ภรรยา ผบ.ตำรวจฉงชิ่ง และบรรดานักธุรกิจของฉงชิ่งที่ใกล้ชิดอาจกำลังต้องเจอข้อหาการทุจริตและการรับสินบนจำนวนมาก(รวมหลายร้อยล้านหยวน) นอกจากนี้ นายปั๋วยังถูกร้องเรียนถึงความประพฤติที่ทำให้พรรคฯเสื่อมเสีย เช่นถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์กับสาวๆนับสิบคน ลือกันว่ามีคำสั่งจากพรรคให้เช็คบิลย้อนหลังตั้งแต่เมื่อคราวไปเป็นผู้ว่าเมืองต้าเหลียน ตอนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิช ยาวมาถึงการดำรงตำแหน่ง5ปีที่มหานครฉงชิ่ง งานนี้เรียกว่าจะเอากันให้หมดข้อกังขา เพื่อให้บรรดาผู้อาวุโสในพรรคบางคนที่ยังอาจเห็นแก่ความหลังและคอยช่วยนายโป่ว สามารถตัดใจได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการปรามพวกบรรดาเหล่า “องค์ชาย” ของพรรค(ลูกหลานสมาชิกพรรคอาวุโสที่อาศัยบารมีพ่อแสวงหาอำนาจ เงินทอง และตำแหน่ง) ให้เห็นเป็นตัวอย่าง