รองศาสตราจารย์
พรชัย ตระกูลวรานนท์
สาขามานุษยวิทยา
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้
มีข่าวสารเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายในประเทศจีนหลายเรื่องด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นประเด็นทางการเมืองของการแสดงออกเรื่องเสรีภาพของสื่อในประเทศจีน
จนเกิดการเดินขบวนกดดันผู้บริหารสำนักพิมพ์หนาน-ฟางในเมืองกวางโจว
สืบเนื่องมาจากเรื่องที่ผมนำเสนอไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน
เรื่องสภาพภูมิอากาศที่หนาวจัด เรื่องตัวเลขส่งออกของไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมา
ซึ่งสูงกว่าที่คาดหมาย และอื่นๆอีกมาก มากจนผมตาลายเลือกไม่ถูกว่าจะนำเสนออะไรดี
สุดท้ายตัดสินใจชวนท่านผู้อ่านที่รักหลบออกจากเรื่องเครียดๆ หาเรื่องเบาๆแต่น่าสนใจมาเป็นประเด็นพูดคุยในสัปดาห์นี้แทน
สักร่วมเดือนหนึ่งมาแล้ว หากจำไม่ผิด ผมไปพบข้อมูลจากเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจีน(CNNIC) อันเป็นหน่วยงานการสื่อสารกลางของประเทศจีน อ้างอิงข้อมูลการสำรวจเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตของตะวันตกและของจีนเอง
ปรากฏว่าเวลานี้มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวจีนมากเกือบ600ล้านราย นอกจากนี้เนื้อหาภาษาจีนในโลกอินเตอร์เน็ต
หรือที่เรียกกันว่าเว็บคอนเท้นท์ภาษาจีน ก็มีมากถึง1ใน4ของเว็บคอนเท้นท์ทั้งโลก(ที่เป็นภาษาอังกฤษมีอยู่ประมาณร้อยละ56)
และยังคาดการณ์กันว่าด้วยอัตราการเติบโตขนาดนี้
จีนและภาษาจีนจะเป็นเจ้าของพื้นที่เว็บคอนเท้นท์ที่ใหญ่ที่สุดในเวลาอันไม่นานนี้ กิจกรรมที่ชาวเน็ตของจีนทำกันเรียงตามลำดับดังนี้
คือ อ่านข่าวสาร สืบค้นข้อมูล ดูสาระบันเทิงรูปแบบต่างๆ
สื่อสารกันบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช็คจดหมายอีเล็กทรอนิกส์
ซื้อขายสินค้า และชำระค่าบริการต่างๆ
ในบรรดาเว็บคอนเท้นท์ทั้งหลายที่เป็นภาษาจีน
ที่น่าจับตาติดตามความเติบโตเป็นพิเศษ ดูเหมือนจะเป็นเนื้อหาประเภทนวนิยายออนไลน์
ที่ว่านี้หมายถึงการนำเสนอนวนิยายใหม่ที่ผู้แต่งสมัยใหม่ใช้พื้นที่บนอินเตอร์เน็ตในการนำเสนอ
และผู้อ่านก็นั่งติดตามอ่านกันที่ละตอนๆบนหน้าเว็บนั่นเอง ไม่ได้หมายรวมถึงเว็บไซต์ที่ให้บริการดาวน์โหลดหนังสือที่มีอยู่แล้ว
ในรูปแบบหนังสืออีเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่มากมายหลายพันเว็บไซต์ทั้งโหลดฟรีและทั้งที่เสียเงินซื้อ
จากข้อมูลของนิตยสารปักกิ่งรีวิวฉบับสัปดาห์ที่แล้ว เว็บไซต์ที่นำเสนอผลงานนวนิยายออนไลน์เหล่านี้
ปีหนึ่งๆสร้างรายได้ให้ทั้งเจ้าของเว็บและนักแต่งนิยายมือใหม่
เป็นจำนวนเงินไม่น้อย และดูเหมือนเติบโตเพิ่มขึ้นทุกๆปี นักเขียนที่มีรายได้สูงสุดรายหนึ่ง คือนาย
จาง-เหวย ผู้ใช้นามปากกา ถัง-เจีย-ซาน-เส้า
เฉพาะสามปีที่ผ่านมาได้รับส่วนแบ่งจากรายได้โฆษณา(ที่คิดตามจำนวนครั้งของการเข้าชมเว็บ)จากเจ้าของเว็บสูงถึง
33 ล้านหยวน นี้ยังไม่นับรวมรายได้จากการที่นวนิยายของเขาได้รับการติดต่อซื้อลิขสิทธิ์
มาตีพิมพ์เป็นตัวเล่มกระดาษอีกจำนวนหลายล้าน
มูลค่ารวมของเงินรายได้จากการโฆษณาในเว็บไชต์นวนิยายออนไลน์ชั้นนำ20เว็บไซต์
มีการประมาณการกันว่าน่าจะสูงกว่า 300 ล้านหยวนในปีที่ผ่านมา
ส่วนแบ่งค่าโฆษณาที่จ่ายให้กับนักเขียนนวนิยายรวมกันในปีที่แล้วเฉพาะในเว็บไซต์ชั้นนำที่ว่า
น่าจะไม่ต่ำกว่า 178 ล้านหยวน
พัฒนาการของนวนิยายออนไลน์ในประเทศจีนนั้น
ว่าที่จริงก็มีจุดเริ่มต้นไม่เกิน10ปี จากเว็บที่ให้บริการดาวน์โหลดหนังสือและนิยายคลาสสิกแบบฟรี
ค่อยๆพัฒนามาเป็นการขายหนังสือออนไลน์
และขยับมาเป็นให้บริการดาวน์โหลดนวนิยายออนไลน์ทั้งฟรีและเสียเงิน
จนเวลานี้อาจกล่าวได้ว่ากำลังกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของหนังสือเล่มมากยิ่งๆขึ้น
และในเวลาเดียวกัน ก็เปิดพื้นที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ให้ได้แจ้งเกิด
โดยไม่ต้องพึ่งพาหรืออาศัยเส้นสายในการแจ้งเกิดกับสำนักพิมพ์ อย่างไรก็ดี
นักเขียนนิยายออนไลน์หน้าใหม่เหล่านี้
แม้ว่าจะประสบความสำเร็จมีผู้คนติดตามอ่านงาน และมีรายได้ดีไม่แพ้อาชีพอื่น
แต่ที่แตกต่างจากนักเขียนในลักษณะจารีตเดิมๆก็คือ
นักเขียนหน้าใหม่เหล่านี้มักไม่เป็นที่รู้จักของสังคมในวงกว้างเท่าใดนัก
ด้วยเหตุที่ว่างานเขียนนวนิยายออนไลน์เกือบทั้งหมด
จะเป็นงานเขียนที่มีผู้อ่านเฉพาะกลุ่มกล่าวคือเป็นผู้อ่านที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นเริ่มต้น จนถึงคนทำงานที่อยู่ในช่วงอายุไม่เกิน30ปี
กลุ่มผู้อ่านเหล่านี้หากเปรียบไปแล้ว
ยังถือว่าไม่ใคร่มีอิทธิพลต่อสังคมและวัฒนธรรมภูมิปัญญาของจีน
ซึ่งแน่นอนว่ายังคงเป็นโลกของนักเขียนและผู้อ่านรุ่นใหญ่กว่าที่อาศัยสื่อสารเผยแพร่อิทธิพลทางความคิดผ่านงานเขียนในรูปแบบหนังสือเล่ม
อย่างไรก็ดีหากพิจารณาในแง่บวก ในอีกไม่เกินสิบปีจากนี้ บทบาทของนักเขียนออนไลน์
นวนิยายออนไลน์ และผู้อ่านออนไลน์ ต่อสังคมและภูมิปัญญาจีน
คงมีเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แนวโน้มนี้พิสูจน์ได้ไม่ยากจากการที่สำนักพิมพ์มาตรฐานหลายต่อหลายแห่งในประเทศจีน
เริ่มจับตาดูความเคลื่อนไหวของโลกนวนิยายออนไลน์ และพร้อมที่จะฉกตัวงานเขียนและนักเขียนที่ได้รับความนิยมสูงในโลกออนไลน์
มาตีพิมพ์เป็นตัวเล่มเพื่อวางขาย ในทำนองเดียวกับปรากฏการณ์นวนิยายกำลังภายในของจีนในช่วงทศวรรษที่1960-1970
ที่มีจุดกำเนิดจากการเขียนนิยายเป็นตอนๆลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์รายวันของฮ่องกงและไต้หวัน
เพื่อกลุ่มผู้อ่านที่เป็นชายจีนวัยกลางคน
จนได้รับความนิยมอย่างสูงถึงขนาดขายสิทธิ์ให้กับหนังสือพิมพ์อื่นๆในชุมชนจีนโพ้นทะเลไปพิมพ์ต่อเป็นตอนย่อยๆ
ก่อนที่จะกลายมาเป็นหนังสือเล่มที่ประสบความสำเร็จมีผู้อ่านเพิ่มมากขึ้นในทุกช่วงอายุ
อนาคตของนิยายออนไลน์จีนและนักเขียนออนไลน์จะเป็นอย่างไรนั้น จึงเป็นเรื่องน่าสนใจ
ไม่ใช่เพียงในประเด็นของธุรกิจออนไลน์หรือธุรกิจสิ่งพิมพ์จีนเท่านั้น
แต่ยังอาจกลายเป็นกระแสของสื่อทางเลือก ที่จะมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรม ความคิด
และสังคมจีนในอนาคตด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น