รองศาสตราจารย์
พรชัย ตระกูลวรานนท์
สาขามานุษยวิทยา
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ช่วงนี้ของหลายปีที่ผ่านมา
ผมมักทำหน้าที่นำความเคลื่อนไหวที่คึกคักต้อนรับเทศกาลตรุษจีนมาเสนอท่านผู้อ่านที่รัก
เกิบสัปดาห์เต็มที่ผ่านมา หน้าข่าวหนังสือพิมพ์และสื่อประเภทต่างๆของจีน
มีแต่เรื่องทำนองเช่นที่ว่านี้เป็นส่วนใหญ่ การเดินทางโกลาหล
ประชาชนชาวจีนเดินทางกลับบ้านเกิด
อุบัติเหตุบนทางหลวงอันเนื่องมาจากการจราจรที่คับคั่งและสภาพอากาศที่เลวร้ายฯลฯ
อ่านมากๆเข้าก็เบื่อครับ ซ้ำเดิมทุกปี จะมีใหม่แปลกไป
ก็คงเป็นข่าวพยากรณ์ดวงดาวในช่วงตอนรับปีมะเส็งที่มาถึงเรียบร้อยแล้วเมื่อวันจันทร์ที่
4 ก.พ. 2556 ที่ผ่านมา(ปีนักษัตรจีนเปลี่ยนวันที่ 4 ก.พ.ครับ
จะตรุษจีนก่อนหรือหลังไม่สำคัญ) แต่ก็ต้องขอผ่าน
เพราะไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของคอลัมน์คลื่นบูรพามาทำหน้าที่ดูดวงรับปีใหม่
สัปดาห์นี้ผมก็เลยขอนำเรื่องที่แหวกแนวไม่ตรงกับเทศกาลมานำเสนอแทน
เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการจัดประชุมใหญ่ประจำปี
ของสมาคมนักโบราณคดีจีน อันเป็นส่วนหนึ่งของสภาสังคมศาสตร์จีนที่กรุงปักกิ่ง
ในงานสัมนา ได้มีการนำเสนอผลงานการสำรวจขุดค้นแหล่งบราณคดีค้นพบใหม่ที่ขุดเจอกันในช่วงปี2012มารายงาน
ในบรรดานี้มีที่เป็นการค้นพบสำคัญอยู่หลายแหล่งด้วยกัน
สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นเรื่องน่าสนใจยิ่ง(ท่านผู้อ่านที่รักจะสนใจด้วยหรือไม่
ลองอ่านดูนะครับ) เลยจะเอามานำเสนอในคราวนี้ เลือกเฉพาะที่เด่นๆมา5รายการครับ
แหล่งที่ 1
เป็นการขุดค้นพบร่องรอยชุมชนยุคหินใหม่ ที่ตำบลซีหงในมณฑลเจียงซู
จัดเป็นชุมชนโบราณที่น่าจะมีอายุเก่าแก่กว่า 8,000ปี
ที่สำคัญมากสำหรับความรู้ทางโบราณคดีจีน
ก็เพราะถือเป็นการค้นพบแหล่งโบราณคดียุคหินใหม่ครั้งแรกในตอนกลางและตอนปลายลุ่มน้ำหวยเหอ
ในพื้นที่สำรวจครอบคลุมกว่า175,000ตารางเมตร พบหลุมฝังศพ92แห่ง
ร่องรอยเตาไฟและจุดที่น่าจะเป็นครัวทำอาหาร26แห่ง
เศษเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นภาชนะรูปทรงต่างๆกว่า400ชิ้น
แยกได้เป็นกลุ่มชุมชน5กลุ่มด้วยกัน
เมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งขุดค้นยุคหินใหม่ที่เคยพบก่อนหน้านี้ในแถบตอนล่างแม่น้ำแยงซี
ข้อมูลใหม่เหล่านี้จะช่วยให้นักโบราณคดีเข้าใจถึงพัฒนาการชุมชนมนุษย์ในยุคต้นของวัฒนธรรมข้าวในประเทศจีนได้ดียิ่งขึ้น
แหล่งที่ 2
ชุมชนยุคหินใหม่ ที่ตำบลเซิ่นมู่ มณฑลส่านซี จากการขุดค้นเทียบอายุ
ประมาณว่าน่าจะเก่าแก่ประมาณ4,000ปีขึ้นไป สภาพมีลักษณะเป็นเมืองขนาดย่อม
ครอบคลุมพื้นที่กว่า4ล้านตารางเมตร จุดสำคัญในแง่มุมวิชาการโบราณคดีคือ
จัดเป็นชุมชนยุคหินใหม่ตอนปลายที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบในประเทศจีน และให้ภาพวาระแรกเริ่มของอารยธรรมจีนยุคโบราณได้อย่างดี
เชื่อมต่อกับภาพที่มีอยู่เดิมของอารยธรรม หลงซาน ยุคกลาง
ที่นักโบราณคดีจีนคุ้นเคยอยู่แล้ว
เมืองโบราณแห่งนี้เชื่อว่าล้มสลายลงระหว่างปี2070-1600ปีก่อนคริสตกาล
ในสมัยราชวงศ์ เซี่ย จากการขุดค้นพบกำแพงเมืองสองชั้น
แนวกำแพงส่วนซึ่งน่าจะเป็นพระราชวัง
ประตูเมืองด้านตะวันออกที่ก่อเรียงด้วยหินขนาดใหญ่
และอาจเป็นต้นแบบซุ้มประตูก่อด้วยหินแห่งแรกของจีน
แหล่งที่ 3 สุสานยุคสำริดห่างจากอำเภอ เหวินฉวน เขตปกครองตนเอง อุยเกอร์ซินเจียง
ไปประมาณ41กิโลเมตร อายุราว1,800ปีก่อนคริสตกาล
แม้ว่าจะเคยมีการค้นพบแหล่งโบราณคดีในลักษณะที่ร่วมสมัยใกล้เคียงกันในรัสเซีย
และในคาซัคสถาน แต่แหล่งขุดค้นที่เหวินฉวนแห่งนี้ถือเป็นการค้นพบครั้งแรกในดินแดนประเทศจีน
จากหลักฐานทางโบราณคดีทำใหชื่อว่าแหล่งโบราณคดีนี้ไม่ใช่ชุมชนที่อยู่อาศัย
ทว่าน่าจะเป็นศูนย์กลางทางศาสนาท้องถิ่นหรือสถานที่ประกอบพิธีกรรมสำคัญของชุมชนยุคสำริดในที่ราบหุบเขา
โปร์ตาลา แลพชุมชนข้างเคียง
สิ่งก่อสร้างด้วยเสาหินขนาดใหญ่และสุสานที่กระจายอยู่โดยรอบ
สะท้อนแบบแผนทางวัฒนธรรมยุคสำริดของเขตวัฒนธรรมเทือกเขาเทียนซาน จนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นักโบราณคดีจีนได้ทะยอยขุดพบสุสานใต้ดินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนใหญ่มีอยู่อยู่ในราวศตวรรษที่19-17ก่อนคริสตกาล ช่วยให้เห็นความเชื่อมโยงกันของวัฒนธรรมเอเชียกลางและตะวันตกเฉียงเหนือของจีนได้อย่างดี
แหล่งที่ 4 สุสานสมัย ชุนชิว ที่ตำบล อวี่สุ่ย มณฑลซานตง
ในช่วงต้นปี2012
คนงานก่อสร้างทางได้ค้นพบสุสานดังกล่าวโดยบังเอิญในขณะไถดินปรับพื้นที่
การสำรวจขุดแต่งทางโบราณคดีในเวลาต่อมา ได้ทำให้พบโบราณวัตถุเครื่องสำริดศิลปะสมัยยุค
ชุนชิว จำนวนมาก มีรูปม้าสำริด8ตัว รถเทียมม้าสำริด ภาชนะในพีธีกรรมสังเวยอีกหลายชิ้น
ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นสุสานของชนชั้นสูงในเวลานั้น
งานขุดสำรวจยังคงดำเนินการต่อเนื่อง
และน่าจะมีข้อมูลที่น่าสนใจทางโบราณคดีเพิ่มเติมอีกมาก
แหล่งที่ 5 ป้อมชนเผาถูซี ในมณฑลกุ่ยโจว
อายุย้อนกลับไปได้ประมาณ ปี คศ. 1127-1279 เชื่อว่าเป็นเมืองปราการของชนเผ่า ถูซี
ที่ก่อตั้งขึ้นในปลายราชวงศ์ซ้อง และล้มสลายลงในช่วงปลายราชวงศ์หมิง
แนวกำแพงเมืองโยรอบกว่า6กิโลเมตรที่ได้รับการขุดแต่ง ยังอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์
ปรากฏแนวอาคารราชวัง ป้อมหอรบ และค่ายทหารที่ชัดเจน หลักฐานเหล่านี้ ช่วยให้นักประวัติศาสตร์จีนเข้าใจโครงสร้างการเมืองและการปกครองตลอดจนนโยบายเกี่ยวกับเมืองขึ้นของจีนได้ดียิ่งขึ้น
สัปดาห์นี้เสนอเรื่อง
อาจแปลกออกไปหน่อย สวัสดีปีใหม่จีน ซินเจียยู่อี่ ซินนีฮวกใช้ ครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น