ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ ชุมชนแห่งความรู้ด้านจีนศึกษา


ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ชุมชนวิชาการจีนศึกษา

ชุดโครงการวิจัยจีนศึกษานี้ นอกจากจะมุ่งสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อให้ทันกับความจำเป็น และความต้องการของประเทศ ทั้งในแวดวงวิชาการชั้นสูงแล้ว ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการบูรณาการความรู้ เพื่อวางแผนการพัฒนาประเทศ "ชุดโครงการวิจัยจีนศึกษา" จึงเป็นการมุ่งเปิดมุมมองการศึกษา เกี่ยวกับมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในชนบทจีน ความเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลจากการพัฒนาทางอุตสาหกรรม กระบวนการ นคราภิวัตร คู่ความสัมพันธ์และขัดแย้งระหว่างเมืองและชนบทของจีน ปัญหาทางเศรษฐกิจ และ การปรับตัวของทั้งเมือง ต่อชนบท และทั้งของชนบทต่อเมือง อันเป็นผลพวงจาก นโยบายปฏิรูปเปิดกว้างของรัฐบาลจีนในช่วงเกือบ30ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบททางสังคมและการเมือง ซึ่งยังได้รับความสนใจศึกษาทางวิชาการไม่มากนัก ตลอดจนศึกษาผลกระทบจากการดำเนินนโยบายต่อภาคการเกษตรและการพัฒนาชนบทของจีนที่เกิดขึ้น การลงทุนภาคเกษตรของจีนในประเทศเพื่อนบ้าน ย่อมเลี่ยงไม่พ้นที่จะส่งผลต่อภาคการเกษตรและชนบทในภูมิภาคใกล้เคียง ในหลายกรณี การขยายตัวของสินค้าเกษตรส่งออกของจีน นโยบายแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำภาคเกษตร ในจีน ได้ส่งผลโดยตรงแล้วต่อเกษตรกรไทย ทั้งในเรื่องการตลาด ของสินค้าเกษตร ที่ทุ่มตลาดจากการเปิดเสรีทางการค้า ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการสร้างเขื่อน และสุขภาวะของชนบทไทยโดยรวม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งทำการศึกษาและทำความเข้าใจ

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทุกข์ของหนุ่มจีน

โดย รศ.พรชัย  ตระกูลวรานนท์ 
สาขามานุษยวิทยา
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

                 หนังสือพิมพ์ เหรินหมิน ของจีนเคยเสนอรายงานข่าวว่า ในอีกสิบปีข้างหน้า ร้อยละ20 ของหนุ่มจีนในวัยแต่งงาน อาจต้องครองตัวเป็นโสด  ทั้งนี้ด้วยเหตุที่สัดส่วนประชากรชายหญิงอายุต่ำกว่า 19 ปีของจีนปัจจุบัน กำลังเสียสมดุลอย่างเห็นได้ชัด  อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะนับแต่รัฐบาลจีนเริ่มนโยบายลูกคนเดียว นักวิชาการจำนวนมากก็เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าแล้ว  แต่ที่กลายมาเป็นประเด็นข่าวกันอีกในช่วงนี้ ก็เพราะเริ่มมีแนวโน้มทางสังคมที่ชี้ให้เห็นว่า สัดส่วนประชากรชายหญิงที่ไม่ได้สมดุลนี้ ไม่เพียงส่งผลให้ผู้ชายจำนวนหนึ่งไม่สามารถหาคู่ครอง แต่ยังอาจมีผลกระทบต่อโครงสร้างรูปแบบครอบครัวสมัยใหม่ โครงสร้างตำแหน่งงานในตลาดแรงงาน และอื่นๆตามมาอีก
                 รายงานข่าวข้างต้น เป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา สภาสังคมศาสตร์แห่งชาติของจีน ได้ตีพิมพ์รายงาน สมุดปกน้ำเงิน สถานการณ์ทางสังคม 2010ส่วนหนึ่งในรายงานได้เสนอภาพสถานการณ์ประชากร โดยให้ตัวเลขสัดส่วนชายหญิงในกลุ่มประชากรอายุต่ำกว่า 5 ปีไว้ที่ 100/123.26 สำหรับท่านผู้อ่านทั่วไป ตัวเลขชุดนี้อาจไม่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษแต่อย่างใด  แต่ถ้านึกถึงประชากรจีนพันกว่าล้านคน นั่นอาจหมายความว่าในปี ค.ศ. 2020 จะมีหนุ่มจีนวัยหาคู่  30-40 ล้านคนที่ไม่อาจหาแฟนหรือหาภรรยาได้  นี่เป็นเพียงเรื่องตัวเลขล้วนๆ  ยังไม่นับปัจจัยเรื่องรวยหรือจน หล่อหรือไม่หล่อ  รสนิยมบุคลิกเป็นที่ต้องตาต้องใจฝ่ายหญิงหรือไม่ฯลฯ
                 อันที่จริงโครงสร้างประชากรมนุษย์แต่ไหนแต่ไรมา ไม่ว่าจะเป็นในภูมิภาคใดของโลก  เป็นธรรมชาติที่ประชากรชายจะมีมากกว่าประชากรหญิงในช่วงวัยเดียวกัน  ในทางประชากรศาสตร์ สถิติค่าเฉลี่ยทั่วโลกในทุกยุคสมัย ระหว่างเด็กชายและเด็กหญิง  อยู่ที่105±2 กล่าวคือจะมีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ร้อยละ 3-7 คน  ในระหว่างที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ สัดส่วนทางประชากรชุดนี้ก็จะถูกปรับเข้าสู่สมดุล  เพราะผู้ชายมีอายุขัยเฉลี่ยต่ำกว่าผู้หญิง โดยเหตุที่วัฒนธรรมในสังคมส่วนใหญ่ เด็กผู้ชายใช้ชีวิตเสี่ยงกว่าเด็กผู้หญิง กล่าวอย่างง่ายๆก็คือ เกิดเยอะกว่านิดหน่อย และก็ตายเร็วกว่านิดหน่อย  ลงท้ายก็จะมีพอๆกัน  ในประเทศจีน สัดส่วนเด็กชายต่อเด็กหญิงเริ่มปรับเปลี่ยนทะลุค่าเฉลี่ยมาตรฐานร้อยละ7มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 80  แต่หากสัดส่วนชายหญิงห่างกันถึงร้อยละ 23.26 อย่างที่เป็นอยู่ในประเทศจีนปัจจุบัน  สภาพการณ์เช่นนี้จัดว่าเป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียว เพราะต่อให้ผู้ชายตายไประหว่างเส้นทางการเจริญเติบโตตามธรรมชาติ ชกต่อยฆ่าฟันกันบ้าง ไปซิ่งไปแว้น รถชนตายบ้าง อย่างเก่งก็ไม่ถึงสามคนห้าคน ในหนึ่งร้อยชีวิต  ท้ายสุดสัดส่วนประชากรชายก็จะสูงกว่าถึงร้อยละ 20
                เรื่องสัดส่วนประชากรชายหญิง ไม่ได้จบเพียงแค่ผลกระทบในการหาแฟนไม่ได้เท่านั้น  ถ้าสถานการณ์ยังดำเนินไปตามที่พยากรณ์ไว้  โครงสร้างแรงงานและสัดส่วนคนทำงานระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงก็จะเพี้ยนไปด้วย  จะมีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงในทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในสายงานการบังคับบัญชาและความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน  ซึ่งโดยวัฒนธรรมจีนผู้ชายได้เปรียบอยู่แล้ว สถานการณ์ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น เพราะมีจำนวนผู้หญิงที่จะแข่งขันในตำแหน่งระดับบริหารน้อยกว่าคู่แข่งชาย แบบแผนพฤติกรรมการบริโภค และการตลาดของสินค้าต่างๆก็อาจเปลี่ยนแปลงไป  จากที่เดิมการตัดสินใจในการบริโภคสินค้าและบริการส่วนใหญ่จะมาจากฝ่ายหญิง  บรรดาโฆษณาขายสินค้าและสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ อาจต้องกลับมาทบทวนกันใหม่ว่าจะเจาะกลุ่มผู้บริโภคอย่างไร  เพราะในอีกสิบปีข้างหน้า ผู้ชายจะกลายมาเป็นตัวกำหนดแบบแผนการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยหลักของตลาดก็เป็นได้
                  แนวโน้มผลกระทบอีกประการคือพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ  เริ่มปรากฏมีผู้ชายคบหาใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนชายให้เห็นในประเทศจีนบ้างแล้ว แม้สังคมส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับ  ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีแนวโน้มใหม่ว่าผู้ชายอาจยินยอมแต่งงานกับเจ้าสาวที่อายุมากกว่า  หรือในบ้างกรณีอาจต้องยอมแต่งงานกับแม่หม้ายข้ามรุ่นด้วยซ้ำไป  โอกาสที่ฝ่ายหญิงจะเรียกร้องสิทธิ์และเงื่อนไขการแต่งงานก็จะมีเพิ่มมากขึ้น  อย่างที่เคยเป็นข่าวเล็กๆปรากฏในหนังสือพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว ว่ามีคู่หมั้นหมายหนุ่มสาวคู่หนึ่ง คบหาเป็นแฟนมายาวกว่า 5 ปี แต่ในที่สุดก็เลิกกันไปไม่อาจจบแบบมีความสุข เพราะครอบครัวฝ่ายหญิงวางเงื่อนไขว่าหลังแต่งงาน ฝ่ายเจ่าบ่าวต้องย้ายเข้ามาในครอบครัวเจ้าสาวเพื่อช่วยดูแลว่าที่พ่อตาแม่ยายที่แก่มากแล้ว และฝ่ายหญิงก็ไม่อาจตัดใจย้ายออกจากครอบครัวพ่อแม่เธอ  กลายเป็นเรื่องผิดธรรมเนียมปฏิบัติตามวัฒนธรรมสืบสายสกุลฝ่ายชายที่ถือกันเคร่งครัดในจีน ยอมกันไม่ได้ ลงเอยต้องเลิกกันไป  แต่ใครจะทราบได้ ว่าการผิดธรรมเนียมปฏิบัติแบบนี้ ในอนาคตอาจมีเพิ่มมากขึ้น เพราะผู้ชายจำนวนมากอาจไม่มีทางเลือก หากอยากแต่งงาน  ถ้าอยากปวดสมอง คิดมากยิ่งขึ้นไปอีก ก็จะเห็นผลกระทบไม่รู้จบ  เช่น เด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่อยู่ท่ามกลางญาติฝ่ายแม่  โครงสร้างสังคมและเครือญาติในอนาคตของจีนจะเป็นเช่นไร
                 สังคมจีนในอนาคตจะจัดการอย่างไรกับเรื่องแบบนี้  คงเป็นประเด็นที่เดาได้ลำบาก  แต่ที่รู้แน่ๆ ตอนนี้คนที่ออกจะเป็นทุกข์  เห็นจะเป็นบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จีนที่ยังไม่ได้แต่งงาน  ยิ่งตัดสินใจสละโสดช้าเท่าไร  คู่แข่งแย่งสาวในอนาคตก็จะยิ่งมีมากขึ้น  นักวิชาการบ้างท่านที่มองโลกในแง่ดี  ยุยงส่งเสริมในทำนองพยากรณ์ว่า แนวโน้มการหาภรรยาที่ไม่ใช่ชาวฮั่น ดูจะมีมากขึ้น  มากพอๆกับการที่หนุ่มๆชาวจีนอาจจะพากันออกต่างมณฑลที่ยังไม่เจริญนัก ที่ซึ่งหญิงสาวยังไม่จู้จี้เรียกร้อง หรือมีเงื่อนไขการแต่งงานที่โหดเกินไป  คราวนี้คนที่เป็นทุกข์ก็อาจกลายเป็นหนุ่มจีนบ้านนอก  และชนชาติส่วนน้อยของจีน  ที่อาจต้องเสียดุลย์ยกสาวให้หนุ่มชาวฮั่น




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น