ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ ชุมชนแห่งความรู้ด้านจีนศึกษา


ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ชุมชนวิชาการจีนศึกษา

ชุดโครงการวิจัยจีนศึกษานี้ นอกจากจะมุ่งสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อให้ทันกับความจำเป็น และความต้องการของประเทศ ทั้งในแวดวงวิชาการชั้นสูงแล้ว ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการบูรณาการความรู้ เพื่อวางแผนการพัฒนาประเทศ "ชุดโครงการวิจัยจีนศึกษา" จึงเป็นการมุ่งเปิดมุมมองการศึกษา เกี่ยวกับมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในชนบทจีน ความเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลจากการพัฒนาทางอุตสาหกรรม กระบวนการ นคราภิวัตร คู่ความสัมพันธ์และขัดแย้งระหว่างเมืองและชนบทของจีน ปัญหาทางเศรษฐกิจ และ การปรับตัวของทั้งเมือง ต่อชนบท และทั้งของชนบทต่อเมือง อันเป็นผลพวงจาก นโยบายปฏิรูปเปิดกว้างของรัฐบาลจีนในช่วงเกือบ30ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบททางสังคมและการเมือง ซึ่งยังได้รับความสนใจศึกษาทางวิชาการไม่มากนัก ตลอดจนศึกษาผลกระทบจากการดำเนินนโยบายต่อภาคการเกษตรและการพัฒนาชนบทของจีนที่เกิดขึ้น การลงทุนภาคเกษตรของจีนในประเทศเพื่อนบ้าน ย่อมเลี่ยงไม่พ้นที่จะส่งผลต่อภาคการเกษตรและชนบทในภูมิภาคใกล้เคียง ในหลายกรณี การขยายตัวของสินค้าเกษตรส่งออกของจีน นโยบายแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำภาคเกษตร ในจีน ได้ส่งผลโดยตรงแล้วต่อเกษตรกรไทย ทั้งในเรื่องการตลาด ของสินค้าเกษตร ที่ทุ่มตลาดจากการเปิดเสรีทางการค้า ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการสร้างเขื่อน และสุขภาวะของชนบทไทยโดยรวม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งทำการศึกษาและทำความเข้าใจ

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พลิกโฉมเมืองซีอาน

โดย รศ.พรชัย  ตระกูลวรานนท์
สาขามานุษยวิทยา คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่าน ส่วนใหญ่คงต้องคุ้นเคยกับชื่อเมืองซีอาน หลายท่านอาจรู้จักดี เพราะได้เคยไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หุ่นดินเผาของจักรพรรดิจิ๋นซี มาแล้ว ท่านผู้อ่านบางท่านที่แม้ยังไม่เคยไปมา แต่ผมก็เชื่อเหลือเกินว่าต้องรู้จักเมืองใหญ่ชื่อดังของประเทศจีนเมืองนี้เป็นแน่ ชื่อเสียงสำคัญของเมืองซีอาน หนีไม่พ้นจากความดังของการค้นพบครั้งสำคัญทางโบราณคดีจีนตั้งแต่ยุคคริสต์ทศวรรษที่ 1970 แต่ว่าไปแล้วก็ไม่ใช่จะมีแต่หุ่นดินเผาสมัยราชวงศ์ฉินอย่างเดียว ในด้านประวัติศาสตร์ เมืองซีอานยังเป็นราชธานีของจักรวรรดิจีนโบราณมาแล้วไม่น้อยกว่า 13 ราชวงศ์ ถูกอ้างอิงถึงในฐานะหัวเมืองชายแดนตะวันตกจุดสำคัญของจีน เป็นสถานีการค้าใหญ่จุดเริ่มต้นเส้นทางสายแพรไหม และอื่น ๆ อีกมากมาย  
สัปดาห์นี้ผมชวนท่านผู้อ่าน พูดคุยย้อนภูมิหลังของเมืองซีอานเสียยืดยาว ก็เพราะไปเจอข่าวใหญ่เข้าชิ้นหนึ่ง ใจความว่ารัฐบาลจีนกำลังจะทำการพลิกโฉมหน้าเมืองซีอาน จากเมืองประวัติศาสตร์โด่งดัง มาเป็นศูนย์การพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคสมัยใหม่ของภาคตะวันตกเฉียงเหนือ โดยเน้นให้เป็นเขตอุตสาหกรรมปลอดมลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ว่าที่จริงแล้วก็เป็นแผนหรือโครงการพัฒนาที่รัฐบาลมณฑลส่านซี พยายามจะหาจุดขายนอกเหนือไปจากที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาการท่องเที่ยว อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลกลางที่ปักกิ่ง ในการวางเป้าหมายการพัฒนาของศตวรรษใหม่ ให้มุ่งไปสู่อุตสาหกรรมและกิจกรรมสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่มีมูลค่าสูง ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนว่าจะสำเร็จมากหรือน้อย ก็คงต้องดูกันไป
         
          ตามแผนการพัฒนาที่เผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อต้นสัปดาห์ ท่านผู้ว่าการมณฑลคุณ จ้าวเจิ้งหย่ง ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ที่กำหนดโดยส่วนกลางมุ่งไปที่อุตสาหกรรมเกิดใหม่อื่นเป็นอนาคตของจีน  โดยมีแผนที่จะสร้างเมืองใหม่ต่อเชื่อมระหว่างเมืองซีอานและเมืองเสียนหยาง ซึ่งในปัจจุบันก็มีสนามบินสร้างใหม่พร้อมที่จะรองรับการพัฒนาเพิ่มเติมได้อยู่แล้ว รัฐบาลท้องถิ่นได้จัดเตรียมที่ดินไว้รองรับโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคนี้ไว้ 882 ตารางกิโลเมตร ห่างจากเมืองซีอาน 10 กิโลเมตร ห่างจากศูนย์กลางเมืองเสียนหยาง 3 กิโลเมตร
            หากโครงการดังกล่าวดำเนินการได้สำเร็จจริง ก็จะเป็นเขตพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ลำดับที่ 4 ของประเทศ ต่อจากผู่ตงของเซี้ยงไฮ้ ปิงไฮ่ของเมืองเทียนจิน และ เหลียงเจียงของเมืองฉงชิ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่เมืองใหม่ ซีอาน-เสียนหยาง จะได้เปรียบกว่าอีกสามเมืองก่อนหน้านี้ ก็คือความใหม่ที่จะสามารถผนวกเอานโยบายล่าสุดของรัฐบาลกลางเพิ่มเติมเข้าไปในแผนได้ โดยไม่ต้องมาปรับเปลี่ยนแก้ไข ผมเองไม่แน่ใจว่าท่านผู้อ่านจะจำงาน EXPO เมืองเซี้ยงไฮ้ได้หรือไม่ ผมเคยนำเสนอไปครั้งหนึ่งเมื่อคราวที่เขาเปิดงานใหม่ ๆ ปีที่แล้ว ว่ารัฐบาลจีนหมายมั่นปั้นมือจะนำเสนอแนวความคิดเมืองไฮเทคสมัยใหม่ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และอำนวยความสะดวกกับผู้คนทุกกลุ่มได้อย่างทั่วถึง เที่ยวนี้แนวความคิดเดียวกันนี้ ก็ถูกนำมาใช้เป็นกรอบกำกับสำคัญในการทำแผน
            ในขณะเดียวกัน หากจะคิดแต่เพียงพัฒนาศูนย์อุตสาหกรรมไฮเทค โดยไม่ใช้จุดแข็งเดิมที่มีอยู่ ก็อาจดูจะเสียของสักหน่อย ในกรณีนี้หมายถึงชื่อเสียงที่เป็นทุนดั้งเดิมของเมืองซีอาน ที่โด่งดังทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี จะทำอย่างไรที่จะให้ต้นทุนเดิมที่โดดเด่นเหนือกว่าเมืองอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทค สามารถมาเป็นแต้มต่อได้ในทางการพัฒนาเมืองใหม่ซีอาน-เสียนหยาง อันนี้ยังไม่ได้แถลงออกมาเป็นข่าวให้ชัดเจน ตามข่าวบอกแต่เพียงว่าจะมีการเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเชิงนิเวศเข้ากับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เด่นอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็จะอาศัยจุดเด่นเรื่องต้นทางของเส้นทางการค้าสายแพรไหมในสมัยโบราณ แม้จะบอกว่าเป็นสมัยโบราณ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วเมืองซีอานก็ยังมีบทบาทอย่างสำคัญในฐานะศูนย์กลางการขนส่งและขนถ่ายสินค้าที่สำคัญที่สุดของจีน ในการติดต่อค้าขายกับกลุ่มประเทศในเอเซียกลาง ส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาจึงรวมไปถึงการริเริ่มเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการขนส่งและเดินทางที่ประหยัดและใช้พลังงานน้อย เช่นแนวความคิดเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีการขนส่งระบบท่อ สำหรับสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น ไม่เฉพาะแต่เพียงที่เป็นของเหลว
          ความได้เปรียบอีกประการหนึ่งของเขตเมืองใหม่หรือนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคซีอาน-เสียนหยาง ก็คือ ทำเลที่ตั้งที่อยู่ท่ามกลางแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญทางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะพวกแร่ธาตุหายากทั้งหลายที่เป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมไฮเทคสมัยใหม่ทั้งหลาย โอบล้อมด้วยภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสินแร่สองด้าน และมีแม่น้ำสำคัญไหลผ่านสามสาย สามารถรองรับได้ทั้งอุตสาหกรรมการผลิต การบริการสมัยใหม่ หรือแม้แต่การเป็นศูนย์กลางการวิจัย  และที่ดูเหมือนจะเด่นที่สุดในแผนพัฒนา ก็คือ นิคมการวิจัยและการผลิตทาง ICT ผมได้ลองค้นคว้าเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากในเนื้อข่าว ก็พบว่ามีการกำหนดแผนในเบื้องต้นไว้แล้ว ที่จะให้ซีอานเมืองใหม่นี้ เชื่อมต่อกับศูนย์ทดลองหลักกว่าหนึ่งพันศูนย์จากเกือบทั่วทุกมหาวิทยาลัยสำคัญในประเทศจีน เพื่อดึงเอางานวิจัยในห้องทดลองแต่ละแห่ง มาต่อยอดทำต้นแบบเพื่อการศึกษาในเขตพัฒนาใหม่แห่งนี้
อ่านข่าว ค้นข่าวเกี่ยวกับเรื่องการพลิกโฉมหน้าใหม่ของเมืองซีอาน ใช้เวลาอยู่ร่วมสามชั่วโมงกว่าจะเขียนมาได้ถึงตอนท้ายนี้ ค้นข่าวไปก็เพลินไปเหมือนอยู่ในความฝัน ตกใจตื่นขึ้นมาก็ได้ยินข่าวทางโทรทัศน์กำลังรายงานเรื่องผู้สมัคร สส.ลงพื้นที่จนถูกสุนัขกัด ถึงได้รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในโลกความเป็นจริงของประเทศไทย ไม่ใช่โลกแห่งความฝันของประเทศจีน  เลยได้แต่ภาวนาว่าหลังเลือกตั้งเที่ยวนี้แล้ว บ้านเมืองเราคงจะดีขึ้นบ้าง จะได้มีเวลาและพลังงานมาช่วยกันสร้างฝัน พัฒนาเศรษฐกิจของเรากันบ้าง ไม่ต้องไฮเทคหรอกครับ เอาแค่ให้มันเดินหน้าได้ก็ยังดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น