โดย รศ.พรชัย ตระกูลวรานนท์
สาขามานุษยวิทยา
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ข่าวสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์จีนที่เพิ่งเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ในประเทศจีนคงทำให้ผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ในหลายประเทศค้อนตาเขียวด้วยความอิจฉา สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่ายอดจำหน่ายรถยนต์รวมทุกประเภทในเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 สูงถึง 1,218,722คัน เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 84 เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มมากกว่าเดือนธันวาคมปีก่อนร้อยละ 5.1 ทั้งนี้หากพิจารณาจากประเภทของรถยนต์ที่จำหน่ายออกไป รถยนต์ในกลุ่มมินิแวนจัดเป็นประเภทรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายเพิ่มสูงมากเป็นพิเศษ คือเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.9 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ44.4เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปีก่อน แหล่งข่าวกระทรวงพาณิชย์จีนประมาณการณ์ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์รวมทั้งปีนี้น่าจะอยู่ที่ 18 ล้านคันเป็นอย่างน้อย
ผมเองไม่ได้ตั้งใจจะแย่งหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจหรือย้ายไปอยู่คอลัมน์ยานยนต์ แต่ที่ชวนท่านผู้อ่านพูดคุยเรื่องยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนก็เพราะกำลังทึ่งกับมาตรการของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์นี่แหละครับ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ในช่วงเดือนมกราคมเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามาจากมาตรการของรัฐบาลจีนที่ให้เงินอุดหนุนเจ้าของรถยนต์เก่าอายุใช้งาน 8-12 ปีหากตัดสินใจจะถอยรถใหม่มาใช้งานแทนรถเก่า มาตรการนี้ทางรัฐบาลให้คำอธิบายต่อสาธารณะชนว่าเป็นการจูงใจผู้บริโภคให้เร่งตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์เก่าที่ไม่ได้มาตรฐานเกณฑ์การปล่อยมลพิษ ตามที่รัฐบาลจีนได้ประกาศใช้ก่อนหน้านี้ อันที่จริงการให้เงินอุดหนุนซื้อรถยนต์ใหม่ มีมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ในช่วงนั้นจำนวนเงินที่ให้ยังไม่มากนัก เงิน 3,000-6,000 หยวนไม่อาจจูงใจหรือเร่งรัดการตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ มาเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่แล้ว รัฐบาลจีนโดยกระทรวงพานิช กระทรวงการคลัง และกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเลยปรึกษาหารือกัน ประกาศเพิ่มให้เป็นสองเท่า ตั้งแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเครื่องยนต์เกิน 1,500 ซีซี รถบรรทุกขนาดกลาง ไปจนถึงรถบัสโดยสารขนาดใหญ่ เจ้าของรถที่ตรวจวัดการปล่อยไอเสียไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จะได้เงินอุดหนุนทันทีตั้งแต่ 6,000 ถึง 18,000 หยวน หากแสดงความจำนงจะซื่อรถยนต์คันใหม่มาใช้งานแทน ปรากฏว่าแรงจูงใจดังกล่าวได้ผลเกินคาด มีเจ้าของรถที่ไม่ผ่านการตรวจควันพิษตัดสินใจซื้อรถยนต์ใหม่แทนการส่งรถยนต์ไปปรับซ่อมเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ในระยะต่อไปรัฐบาลจีนยังวางแผนที่จะปรับปรุงภาษีรถยนต์ เพื่อให้การใช้งานรถยนต์ใหม่ที่ไม่ก่อมลพิษได้เปรียบทางภาษีมากขึ้น
อย่างไรก็ดี มีนักวิเคราะห์วิจารณ์จำนวนหนึ่ง มองว่ามาตรการดังกล่าวข้างต้น เป็นประโยชน์โดยตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์จีน เฉพาะอย่างยิ่ง ในสภาวการณ์ที่การส่งออกรถยนต์และตลาดรถยนต์ภายในของจีนเอง ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจจากภายนอกในปีที่แล้ว ฉะนั้นดีไม่ดีมาตรการดังกล่าวอาจมีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงอยู่ที่การช่วยอุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์ มากกว่าที่จะให้ความจริงจังกับการลดมลพิษทางอากาศในประเทศจีน เหตุที่ทำให้มีคนวิเคราะห์กันไปในทางลบ ก็เพราะรัฐบาลจีนเองก็ยังไม่มีมาตรการเข้มงวดชัดเจนเกี่ยวกับรถยนต์เก่าจำนวนมหาสารที่วิ่งปล่อยควันดำอยู่ทั่วทั้งประเทศ แม้จะสามารถจูงใจให้เจ้าของรถยนต์จำนวนมาก ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ใหม่คุณภาพสูงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ รถยนต์คันเก่าที่ไม่ได้มาตรฐานการปล่อยควันพิษจากท่อไอเสีย ไม่ได้หายไปไหน และรัฐบาลก็ยังไม่สามารถรับซื้อมากำจัดทิ้งได้ รถยนต์เหล่านี้หลั่งไหลเข้าไปในตลาดรถยนต์มือสอง ตกแต่งปรับเครื่องยนต์อีกเล็กน้อยเพื่อให้ผ่านการตรวจวัด แล้วก็กลับออกมาวิ่งบนท้องถนนอีกเช่นเดิม ไม่ถึงสัปดาห์ก็สามารถปล่อยควันดำอีกแล้ว
ยังมีพวกที่มองโลกในแง่ร้ายอีกกลุ่ม เชื่อมโยงเปรียบเทียบเรื่องเงินอุดหนุนซื้อรถยนต์ใหม่ข้างต้น เข้ากับมาตรการจำกัดรถยนต์ส่วนบุคคลในมหานครปักกิ่งตั้งแต่ก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค อันเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก่อนหน้านี้ บรรดาเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีบ้านเรือนอยู่นอกแนวถนนวงแหวนวงรอบที่ห้าของมหานครปักกิ่ง จะถูกบังคับโดยมาตรการดังกล่าวให้ต้องจอดรถยนต์ทิ้งไว้ที่บ้านสัปดาห์ละหนึ่งวัน(โดยดูจากเลขตัวสุดท้ายของป้ายทะเบียน) และให้หันไปใช้การขนส่งสาธารณะแทน หากฝ่าฝืนและถูกจับโดยตำรวจจราจรหรือกล้องตรวจจับที่ติดตั้งเต็มไปหมดทั้งเมือง ก็จะโดนค่าปรับ100หยวน อย่างไรก็ดี ปรากฏว่ามีผู้คนจำนวนมากซื้อรถยนต์เพิ่มอีกหนึ่งคันทันที่ เพราะในช่วงนั้นก็มีนโยบายส่งเสริมให้ผู้คนซื้อรถใหม่อยู่เช่นกัน เลยกลายเป็นว่าแทนที่จะสามารถลดจำนวนประชากรรถยนต์ออกไปจากท้องถนนได้วันละ 800,000 คันจาก4 ล้านกว่าคัน กลับไปสร้างแรงกดดันและแรงจูงใจให้คนตัดสินใจซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น ว่ากันว่าในอีกสอง-สามปี ประชากรรถยนต์ในปักกิ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.5 ล้านคัน ถึงตอนนั้นการแก้ปัญหาก็คงหนักหนายิ่งขึ้น เลยมีคนหัวดีเสนอว่า ถ้าจะแก้ปัญหารถติดและมลพิษทางอากาศในปักกิ่งให้ได้ผลแบบ “หินก้อนเดียว ได้นกสองตัว” ไม่มีทางอื่นนอกจากเพิ่มปริมาณพื้นผิวจราจร นอกจากจะมีถนนให้รถวิ่งได้มากขึ้น สภาพรถติดเครื่องยนต์แต่จอดแช่แน่นิ่งปล่อยมลพิษก็จะหมดไปด้วย เพราะเป็นธรรมดาว่ารถยนต์ที่วิ่งอยู่อย่างคล่องตัว ปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถยนต์ที่ติดแหง็กถึงหนึ่งต่อสาม ทั้งหมดที่ผมเล่ามานี้เป็นเรื่องในประเทศจีนแท้ๆ ไม่มีเจตนาเกี่ยวข้องใดๆกับสภาพจราจรในบ้านเราเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น